การทำความสะอาดบ้าน  

เมื่อเราอยู่ในช่วงของการทำงานนั้นเมื่อถึงวันหยุดเราก็ต้องแปลงร่างเป็นแจ๋วในการที่เราจะต้องทำความสะอาดบ้านเพราะว่าบ้านของเรานั้นอาจจะไม่ทำความสะอาดมาหลายวันพอถึงวันหยุดเราก็ต้องทำความสะอาดเพราะว่าถ้าไม่ทำนั้นก็อาจจะทำให้ทุกคนในบ้านเกิดแพ้ฝุ่นเป็นโรคภูมิแพ้ไปอีก

ดังนั้นเราก็ต้องเลือกที่จะทำงานบ้านก่อนที่เราจะไปไหน และในมุมบ้านั้นก็คงต้องสกปรกไปด้วยนั่นเอง   แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราต้องมีวันหยุดที่ยาวเราเชื่อว่าเหล่าแม่บ้านนั้นก็พร้อมที่จะดูแลบ้านกันเพราะว่าบ้านนั้นเราเชื่อว่าต้องไม่มีใครที่จะอยู่ได้หรอก 

อย่างน้อยๆเราก็คงจะทำความสะอาดก่อนที่เราจะไปทำงานได้เพียงกวาดบ้านถูบ้านได้เท่านั้น ซึ่งเราก็เลยที่จะมาบอกวิธีการทำความสะอาดว่ามีอะไรบ้าง 

  1. การที่เราจะทำความสะอาดบ้านนั้นเราก็ควรที่จะทำความสะอาดที่อยู่ด้านบนของบ้านก่อน  ถ้าบ้านใครนั้นมีสองชั้นเราก็ควรที่จะทำชั้นบน  โดยที่จะเริ่มจากการที่เรากวาดฝ้าเพดาน และพื้นค่อยๆไล่ไป  แต่ถ้าเราทำชั้นล่างก่อนนั้นก็จะทำให้เมื่อเรากวาดชั้นบนนั้นก็จะปลิวมาชั้นล่างเหมือนกัน  
  2. หลังจากที่เรากวาดฝ้าเพดานแล้วค่อยไล่ลงมาอย่างเช่นเราควรที่จะปัดเช็ดอย่างเช่นหลังตู้  โต๊ะ เก้าอี้ค่อยไล่ลงมา จากนั้นก็ค่อยกวาดพื้นเป็นสิ่งสุดท้าย
  3. ถ้าบ้านใครนั้นมีมุ้งลวดนั้นเราก็ควรที่จะถอดออกมาล้างแล้วก็ตากแดดเพื่อที่จะรอให้แห้งแล้วค่อยเอามาใส่ให้เหมือนเดิม  
  4. การที่เราทำความสะอาดนั้นเราควรที่จะทำความสะอาดให้เป็นห้องๆไปเพราะว่าจะได้ไม่วุ่นวายนั่นเองรวมไปถึงห้องน้ำห้องครัวด้วย เพื่อที่จะได้สะดวกในการใช้งานนั่นเอง  
  5. เราควรที่จะถอดผ้าม่านนั้นออกมาซักด้วยเพราะว่าผ้าม่านนั่นแหล่ะเป็นสิ่งที่สกปรกที่เต็มไปด้วยฝุ่นนั่นเองดังนั้นเราควรที่จะถอดออกมาซักแต่ถ้าเรานั้นถอดออกมาไม่ได้ให้เรานั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเพื่อที่จะได้อาฝุ่นนั้นออกด้วย  
  6. ผ้าปูที่นอนนั้นทางที่ดีเราก็ควรที่จะซักทุกอาทิตย์เป็นอย่างน้อยเพราะว่าเป็นสิ่งแหล่งของฝุ่นและที่แพร่เชื้อโรคเลยก็ว่าได้ดังนั้นเราก็ควรที่จะซักให้สะอาด  
  7. การที่เราทำความสะอาดอย่างอื่นแล้วอย่าลืมการที่เราจะทำความสะอาดเกี่ยวกับของสิ่งเล็กไม่ว่าจะเป็นเครื่องตบแต่งบ้านที่เราควรที่จะเอามาเช็ดให้เรียบร้อยนั่นเอง  

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยลาว

ชี้ช่องทางรวยด้วยการพนันออนไลน์

การพนันหลายคนอาจจะมองว่าเล่นไปก็ไม่มีทางที่จะช่วยทำให้ผู้เล่นนั้นรวยได้หรือไม่สามารถสร้างรายได้ในระยะยาวได้ ซึ่งความเป็นจริงแล้วนั้นผู้เล่นการพนันสามารถทำได้แต่จะต้องอาศัยสติของผู้เล่นเป็นหลัก ที่จะสามารถทำให้การเล่นการพนันนั้นเป็นสิ่งที่จะช่วยในการสร้างรายได้ที่มั่นคงและยื่นยาวได้

ต้องทำความเข้าในสิ่งที่ว่าการพนันนั้นเป็นเสมือนการเสี่ยงโชคอย่างหนึ่งแต่ก็อาจจะมีทริคต่างๆที่จะสามารถช่วยทำให้การเล่นการพนันนั้นสามารถสร้างรายได้และการเล่นที่แปลกใหม่ออกไปทำให้ผู้เล่นนั้นทันกลโลกงในการเล่นการพนัน

และสำหรับการพนันอีกช่องทางในการเล่นอย่างการพนันออนไลน์นั้นเรียกได้ว่าเป็นการเล่นการพนันที่จะสามารถสร้าวรายได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากในปัจจุบันมีการเกิดขึ้นของวงการการพนันแบบออนไลน์ขึ้นอยู่มากมาย ไม่เพียงผู้ให้บริกรายเดียวเท่านั้นแต่มีมากมายหลายร้อยผู้ให้บริการและนี่เองก็คือช่องทางที่จะสร้างรายได้จากการพนันอย่างยั่งยืนได้

การเปลี่ยนที่เล่นไปเรื่อยๆ อย่างที่ทรากันดีว่าการพนันออนไลน์มีการเกิดขึ้นมากมายในวันหนึ่งนั้นมีหลายเว็บเกิดขึ้น ทำให้ผู้เล่นนั้นมีทางเลือกในการที่จะเล่นมากขึ้น การที่เปลี่ยนเว็บในในการเล่นนั้นก็เพื่อป้องกนกลโกงจากเว็บการพนันนั้นๆนั่นเอง หรืออาจจะมีการเวียนเว็บพนันออนไลน์ที่เรานั้นเล่นประจำอยู่เรื่อยๆ ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินไปยังเว็บการพนันอื่นๆได้ด้วย

การเก็ยออมเงินจากการเล่นการพนัน สติเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในผู้ที่เล่นการพนัน เพราะถ้าหากไม่มีสติและเกิดความโลภเมื่อไหร่ เงินที่ได้มาจากการพนันนั้นก็จะหมดไปเพราะความโลภที่จะจะอยากได้เงินมากขึ้นทำให้เกิดความสูญเสียนั่นเอง

การนำเงินที่ได้ไปต่อยอดในเกมส์การพนันอื่นๆ การเนเกมส์การพนันเพียงอย่างเดียวนั้นอาจจะเกิดการสูญเสียของเงินที่ได้มาจากเกมส์นั้นได้ ดังนั้นการสร้างสมดุลของการเล่นเกมส์การพนันนั้นก็คือการเล่นเกมส์การพนันอื่นๆควบคู่ไปด้วย ทำให้เรานั้นลดความเสี่ยงจากเกมส์การพนันเพียงเกมส์เดียว เพราะเกมส์การพนันนั้นมีมากมายหลากหลายเกมส์การกระจายเงินที่มีหรือที่ได้จากเกมส์การพนันใดการพนันหนึ่งนั้นจึงสามารถช่วยกระจายความเสี่ยงและจัดการรายได้จากการเล่นการพนันได้ด้วย

ผู้เล่นจะต้องรู้จักประมาณตน เล่นอย่างไรก็ไม่มีวันรวยเป็นคำที่ได้ยินอยู่เสมอสำหรับคนที่เล่นการพนัน เพราะผู้เล่นมีความโลภและไม่ประมาณตนนั่นเอง ดังนั้นแล้วการประมาณตนและเล่นการพนันอย่างพอดีก้จะทำให้เรานั้นสามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืนผ่านการเล่นการพนันนออนไลน์ได้

 

สนับสนุนโดย  รวมเว็บหวยออนไลน์

การทำการดูแลรักษาสุขภาพในฤดูร้อน

การที่เรานั้นจะทำการดูแลรักษาตัวเองในช่วงฤดูร้อนนั้น จะต้องทำการดูแลรักษาตนเองให้ดีเพื่อที่เรานั้นจะไม่มีอาการอะไรเกิดขึ้น ซึ่งในการที่เรานั้นจะทำการดูแลสุขภาพในช่วงนี้นั้น จะเป็นช่วงที่ร่างกายของเรานั้นเกิดการร้อนเป็นอย่างมาก

และมีอุณหภูมิของร่างกายของเรานั้นสูง ซึ่งเรานั้นอาจจะมีการเกิดอาการเป็นลมขึ้นได้ ซึ่งดังนั้นเราก็ต้องมีการดูแลรักษาตัวเองให้เป็นอย่างดี เพื่อที่จะไม่ให้ร่างกายของเรานั้นเกิดผลกระทบขึ้น ซึ่งวิธีการที่จะทำการดูแลสุขภาพร่างกายของเราให้ดีในหน้าร้อนนั้นก็คือ

  1. ไม่ควรดื่มน้ำที่มีความเย็นมากๆ

ซึ่งในการที่เรานั้นทำการดื่มน้ำเย็นในช่วงฤดูร้อนนั้น เป็นสิ่งที่เรานั้นได้มีการทำเป็นอย่างแรกๆ ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการดื่มน้ำที่มีความเย็นมากๆนั้น จะมีการที่จะส่งผลกระทบต่อร่างกายของเรานั้นเ็นอย่างมาก ก็คือ ในการที่เรานั้นทำการที่จะดื่มน้ำที่มีความเย็นจัดมากๆนั้น จะทำให้เลือดที่ได้มีการส่งมาเลี้ยงท่ออาหารนั้น เกิดการทำงานได้น้อยลง ซึ่งจะสามารถทำให้เรานั้นเกิดเป็นโรคลำไส้อักเสบได้ ซึ่งในการที่เรานั้นต้องการกินน้ำ เพื่อที่จะทำการดับร้อนนั้นก็คือ การที่เรานั้นทำการดื่มน้ำเปล่า จะเป็นการที่ดีที่สุด หรือจะสามารถที่จะทำการดื่มน้ำสมุนไพรก็ได้อีกด้วย

  1. การที่เรานั้นกินผลไม้

ในการที่เรานั้นได้มีการกินผลไม้นั้น จะเป็นการที่เรานั้นสามารถทำการการกินแก้ร้อนได้ และยังจะสามารถที่จะทำการที่ช่วยเพื่อปริมาณน้ำในร่างกายของเราได้อีกด้วย

  1. การที่เรานั้นทำการเลี่ยงแสงแดด

ในการที่เรานั้นจะทำการดูแลรักษาสุขภาพนั้น เราควรที่จะมีการหลีกเลี่ยงการเจอแสงแดดเป็นอย่างมาก ซึ่งในหน้าร้อนนั้นแสงแดด หรือแสงยูวีนั้นได้มีการเข้มข้นอยู่มาก และในการที่เรานั้นจะทำการออกไปข้างนอกนั้นเราควรที่จะมีการทาครีม ซึ่งในการที่เรานั้นไม่ได้มีการป้องกันใดนั้น จะทำให้ร่างกายของเรานั้น มีการแห้งเสียของผิว เกิดการอ่อนเพลียของร่างกาย ที่สามารถที่จะเกิดการเป็นลมได้อีกด้วย

  1. การที่เรานั้นได้มีการใส่้สื้อผ้าที่มีการระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี

ซึ่งในการหน้าร้อนนั้น เหงื่อของเรานั้นจะมีการออกมาก ดังนั้นเราควรที่จะมีการสวมใส่เสื้อผ้าที่สามารถทำการระบายความร้อน ออกจากร่างกายได้ดีมากๆ

 

สนับสนุนโดย  วิธีเล่นหวยหุ้นมือใหม่

โรคหัวใจวาย

โรคหัวใจวายที่เป็นสัญญาณอันตรายที่จะบ่งบอกได้ว่าคุณน่าจะมีภาวะหัวใจวาย

สำหรับเรื่องของหัวใจวายเราคิดว่ามันเป็นเรื่องอะไรที่เขาเรียกว่ามันจะไกลตัวมันก็ไม่ไกลตัวจะใกล้ตัวมันก็ไม่ใกล้อะไรที่มันได้เป็นเกี่ยวกับโรคของหัวใจเวลามันเป็นมันฉับพลันมันรวดเร็วและมันอาจจะทำให้เราเสียชีวิตได้ถ้าเราสามารถสังเกตุก่อนว่าไอ้แบบนี้ต่อไปมันจะกลายมาเป็นหัวใจวาย

ซึ่งอะไรที่มันเล็กๆน้อยๆมันจะนำไปสู่ภาวะหัวใจวายมันก็จะทำให้เรานั้นมีชีวิตรอดจากโรคหัวใจนี้และภาวะของหัวใจวายแล้วมีสัญญาณอันตรายอยู่หลายอย่างใหญ่ๆดังนี้

อันดับแรกเมื่อคุณมีความรู้สึกอ่อนเพลียผิดปกติ การอ่อนเพลียผิดปกตินั้นจริงๆแล้วมันก็เป็นแบบอาการทั่วๆไปที่มันแบบเป็นใครมันก็เป็นได้แต่ว่าอาการอ่อนเพลียแบบผิดปกตินี้ถ้าสำหรับภาวะหัวใจวายแล้วมันไม่ใช่ว่าวันนี้เป็นพรุ่งนี้ไม่เป็นมะรืนนี้เป็นวันนี้ทะเลาะกับแฟนแล้วเป็นวันนั้นเครียดแล้วเป็นวันนี้สบายดีไม่เป็นมันไม่ใช่อย่างนั้น

โดยมันจะต้องอ่อนเพลียติดต่อกันยาวหลายวันบางคน3วัน5วัน7วัน1เดือนและอาการมันจะแย่ลงเรื่อยๆทีละนิดๆอาการอ่อนเพลียมันเกิดจากการระบบไหลเวียนโลหิตเราไม่ดีเนื่องจากภาวะหัวใจบีบตัวได้ไม่ดีเพราะหัวใจมันเริ่มแย่มันเริ่มหมดแรง

เมื่อหัวใจเราเริ่มแย่เริ่มหมดแรงการบีบเลือดก็แย่ลงการส่งออกซิเจนไปในส่วนต่างๆของร่างกายก็แย่ลงทำใหเราเกิดภาวะอ่อนเพลียเลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลงเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อน้อยลงสมองก็จะวิงเวียนกล้ามเนื้อก็อ่อนล้ากระสับกระส่ายออกซิเจนน้อยมันเป็นอะไรที่ตัวเราต้องระมัดระวังต้องลองดู

ถ้าหากใครที่มีอาการอ่อนเพลียแย่ลงมาตลอดเลยเหนื่อยนอนก็ไม่ค่อยหลับ หลับๆตื่นๆ ทุกวันมันแย่ลงเรื่อยๆอย่านี้ให้คุณรีบไปพบแพทย์ด่วน

นอกจากนี้เรามาดูอาการชนิดที่สองที่สงสัยว่ามันอาจจะทำให้เกิดภาวะหัวใจวายก็คือ อาการเจ็บจุก แน่นหน้าอกอย่างรุนแรง ด้วย เจ็บนิดๆหน่อยๆอย่าไปซีเรียสมีกันได้และอาการจุกแน่นหน้าอกที่บ่งบอกภาวะโรคหัวใจหรือหัวใจวายมันจะเป็นการเจ็บแน่นหน้าอกแบบเหมือนมีอะไรมากดทับถ้าเจ็บแปล๊บๆเหมือนไฟซ็อตอะไรแบบนี้ไม่ค่อยใช่ไม่ได้บอกว่าไม่เป็นแต่ไม่ค่อยใช่

โดย10ใน9คนจะเจ็บเหมือนมีอะไรมานั่งทับหน้าอกถ้าเกิดสมมุตก็เหมือนมีช้างมาเหยียบหน้าอกเอาว่าเป็นคนน้ำหนัก100กิโลมาทับหน้าอกคุณอาการป่วยมันก็จะหนักประมาณนั้นอารมณ์แบบนั้นเลยแบบนี้จะบ่งบอกถึงภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

 

สนับสนุนโดย  ซื้อหวยออนไลน์ เว็บไหนดี

ปัญหาอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถรับส่งนักเรียน

        ปัญหาอย่างหนึ่งในสังคมของเราในขณะนี้ที่ผู้ปกครองหลายคนต่างพากันหวาดกลัวนั่นก็คือปัญหาที่มักพบเจอเวลาที่ต้องให้ลูกของตนเองขึ้นรถรับส่งไม่ว่าจะเป็นปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนเพราะคนขับรถรับส่งนั้นขับรถเร็วเกินไป

และขาดความระมัดระวังหรือแม้แต่ปัญหาของการที่รถรับส่งมักจะลืมเด็กนักเรียนที่เป็นเด็กเล็กไว้ในรถชนเด็กเสียชีวิตภายในรถนั้นปัญหาเหล่านี้เรามักจะได้ข่าวและพบเห็นอยู่เป็นประจำอยู่บ่อยครั้งจนสร้างความวิตกกังวลให้กับผู้ปกครองของเด็กๆเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

        สำหรับเรื่องปัญหาของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นนอกจากส่วนหนึ่งจะเกิดจากผู้ขับขี่รถรับส่งนักเรียนอาจจะขาดความระมัดระวังแล้วอุบัติเหตุก็มักจะเกิดขึ้นได้จากผู้ขับขี่บนท้องถนนที่ขับรถคันอื่นๆ

ดังนั้นการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยากแต่ก็สามารถทำได้ด้วยการขับรถอย่างระมัดระวังและมีสติให้มากที่สุดนั่นเอง

        แต่ในขณะเดียวกันปัญหาที่สร้างความวิตกกังวลให้กับผู้ปกครองมากที่สุดกับเป็นกรณีที่ผู้ปกครองจำเป็นต้องให้บุตรหลานของตนเองนั้นขึ้นรถรับส่งไปโรงเรียนและสิ่งที่พากันหวาดกลัว

ก็เพราะว่ามักจะมีข่าวออกมาอยู่เป็นประจำเมื่อคนขับรถตู้หรือคุณครูพี่เลี้ยงไม่ได้นับจำนวนเด็กนักเรียนเมื่อเด็กลงจากรถแล้วไม่ได้มีการตรวจสอบให้เรียบร้อยทำให้เกิดเหตุการณ์ลืมเด็กไว้ในรถอยู่บ่อยครั้ง

และเหตุการณ์นี้ก็สร้างความสูญเสียมาให้กับผู้ปกครองเมื่อเด็กส่วนใหญ่ที่ถูกลืมไว้ในรถนั้นมักจะขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตในที่สุดนั่นเอง

          อย่างไรก็ตามปัญหานี้สามารถที่จะแก้ไขได้หากคนขับรถตู้และครูพี่เลี้ยงมีความรับผิดชอบมากขึ้นเพียงแค่พวกเขาทำการตรวจสอบทุกครั้งก่อนที่จะนำรถไปเก็บตังค์จากที่เด็กลงจากรถเรียบร้อยแล้วให้ขึ้นมาตรวจสอบภายหลังรถตู้ทุกครั้ง

ว่ายังมีเด็กหลงเหลืออยู่หรือไม่ซึ่งวิธีการนี้จะเป็นวิธีการที่จะไม่ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุการลืมเด็กไว้ในรถได้อีกเลยและส่วนหนึ่งผู้ปกครองเองก็จะต้องมีการสอนบุตรหลานของตนเองกรณีหากว่าเผลอหลับและคนขับรถตู้ไม่ได้ขึ้นมาดูควรจะมีการสอนเด็กๆให้หัดบีบแตรรถ

      นั่นก็เพราะว่าถึงแม้ว่ารถแต่ไม่มีการสตาร์ททิ้งเอาไว้แต่แต่รถยังสามารถทำงานได้ดังนั้นหากเด็กบีบแตรรถเป็นหากเกิดเหตุการณ์อยู่ในรถตู้แล้วไม่มีใครมาเปิดประตูให้ก็ยังสามารถให้เด็กๆนั้นบีบแตรเพื่อเรียกร้องให้คนใกล้เคียงที่อยู่ใกล้กับรถนั้นมาช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที

ซึ่งวิธีการนี้เป็นวิธีการอีกอย่างหนึ่งที่จะสามารถรักษาชีวิตเด็กได้นั่นเองดังนั้นผู้ปกครองทุกคนจึงควรใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับบุตรหลานของตนเองกรณีที่ต้องนั่งรถรับส่งเด็กนักเรียนและตัวคนขับรถเอง

ก็ควรจะมีการใส่ใจผู้โดยสารของตนเองซึ่งเป็นเด็กนักเรียนตัวน้อยๆเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและสร้างความเศร้าโศกเสียใจมายังคนในครอบครัวของเด็กหรือแม้แต่คนขับรถตู้เองก็ตาม 

 

สนับสนุนโดย  กลุ่มไลน์หวยฮานอย

เอกสิทธิ์ของส.ส.

เมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที ก็มีเรื่องให้ตีความกันใหม่ที โดยพาะรัฐธรรมนูญฉบับพ.ศ.2560 เป็นรัฐธรรมนูญที่หลายคนมองว่าเขียนได้งุนงง ที่สุดฉบับหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องระบบเลือกตั้ง และยังมีกฎระเบียบอะไรหลายๆอย่าง ที่ต้องตีความรกศาลรัฐธรรมนูญ เช่น เรื่องการถือหุ้นสื่อของ ส.ส.

ซึ่งเอาจริง ก็มีเสียงวิจารณ์ว่า ถ้าเอาเรื่องตามทันสมัย เดี๋ยวนี้เขาสื่อสารกันทางอินเตอร์เนตหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปจดแจ้งการพิมพ์ หรือติ๊กในบรคณห์สนธิแบบครอบจักรวาล มันก็เป็นเรื่องน่าคิดว่า การไม่ให้ถือหุ้นกิจการสื่อ เพื่อป้องกันการให้คุณโทษกับตัวเองหรือฝ่ายตรงข้าม นี่การออกแบบตามรัฐธรรมนูญนี้แก้ปัญหาได้หรือไม่

เรื่องล่าสุดที่กำลังร้อนๆขึ้นมา คือการตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบจากประกาศ คสช.และคำสั่งหัวหน้า คสช.ตามาตรา44 ซึ่ง ส.ส.ขั้วรัฐบาลเขาไม่อยากให้ตั้งเท่าไหร่นัก เพราะถ้าตั้งขึ้นมาก็เท่ากับ กมธ.ชุดนี้ก็จะมีการเรียก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก และรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายก มาสอบได้ ปารกฏว่า เสียงรัฐบาลแพ้ จนกระทั่งวิปรัฐบาลเสนอให้นับคะแนนโหวตใหม่ แต่วิปฝ่ายค้านไม่ยอมเพราะมองว่า การนับคะแนนใหม่ก็คือการโหวตใหม่ ทำให้การประชุมต่อแบบที่ผ่านมาแต่สภาก็ล่ม ไม่ได้พิจารณาญัตติตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อตามที่ตั้งใจไว้

มันอาจกลายเป็นเรื่องรกศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้ง เมื่อทางนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความเรื่องข้อบังคับการประชุมว่า การให้นับคะแนนใหม่เท่ากับการโหวตใหม่หรือไม่ ในขณะที่วิปรัฐบาลก็วิ่งหาทางออกเรื่องนี้โดยพยายามเจรจากับวิปฝ่ายค้านอย่าให้วงประชุมล่มอีก

แต่ทีนี้ หอกที่กลับมาทิ่มรัฐบาลอีกทีคือเรื่องเอกสิทธิ์ ส.ส. อย่างที่น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ใช้เอกสิทธิ์และโดนพรรคสอบมาแล้วแต่เอกสิทธิ์ ส.ส.เที่ยวนี้คือกลุ่มนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช กับส.ส.6คน ที่อ้างว่าต้องโหวตรับให้ตั้งกมธ.เพราะตนของพรรคเป็นผู้เสนอญัตตินี้เอง

พรรคขนาดกลางมีโอกาสอ้างเอกสิทธิ์แล้วขณะเดียวกัน มีกลุ่มส.ส.พรรคเล็กอย่างพรรคพลังท้องถิ่นไท พรรครักษ์ผืนป่าไท พรรคไทยศรีวิไลซ์ ที่รวมตัวกันเป็นกิจสังคมใหม่ ซึ่งก็ไม่รุ้ว่าจะยอมให้รัฐบาลเคลมง่ายๆหรือเปล่า

 

สนับสนุนโดย  ถ่ายทอดสดหวยฮานอยวันนี้

สมองล้านั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร

อาการสมองล้าเป็นอาการที่เกิดจากการเครียดตัวที่สมองนั้นถูกใช้งานอย่างหนักเป็นระยะเวลาที่นานหรืออาจจะเกิดจากการที่เหล่านั้นทำการรีบเร่งหรือพักผ่อนน้อยและการอยู่ที่หน้าจอคอมเป็นเวลานานๆ ซึ่งเกิดจากสารเคมีในสมองนั้นเกิดการเสียสมดุล

ดังนั้นประสิทธิภาพของสมองที่ทำงานจึงแย่ลงมากและมีการที่จะดูว่าเมื่อหมอกลง ที่สมองนั้นซึ่งจะทำให้สมองไม่สดใสในการเกิดหมอกลงสมองนั้นบ่อยๆครั้งจะเป็นสาเหตุที่จะทำให้โรคต่างๆมากมายทำการเกิดขึ้นได้เช่น โรคกระเพาะ การประจําเดือนไม่มา โรคเบาหวาน และอื่นๆอีกมากมาย

ซึ่งสาเหตุนั้นเกิดได้จาก

การที่เกิดโรคหรือภาวะสมองล้านั้นเกิดได้จากการที่ชีวิตของคนในยุคใหม่นั้นมีการเปลี่ยนไปจึงทำให้มีภาวะนี้เกิดเพิ่มมากขึ้นซึ่งการที่จะทำให้เกิดภาวะสมองล้านั้นเกิดได้จาก

  1. จากการใช้งานคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มากเกินไป เพราะว่าการที่ใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มากเกินไปนั้นคลื่นแม่เหล็กของสิ่งเหล่านี้จะทำการไปรบกวนสื่อประสาทในสมอง นั้นเกิดมีการรบกวนมากเกินไป
  2. เกิดจากการที่เลือดนั้นทำการไปเลี้ยงสมองน้อยลง ซึ่งเกิดจากความเครียดเหลือการมึนงงที่จะทำให้ความจำของเรานั้นเกิดการแย่ลงหรือลดลงอย่างมาก
  3. เกิดได้จากการที่เรานั้นขาดการออกกำลังกาย ซึ่งจะรวมไปถึงการนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งจะทำให้ร่างกายนั้นเกิดภาวะเครียดได้
  4. เกิดได้จากการที่เรานั้นกินอาหารไม่เพียงพอ หรือเกิดการขาดสารอาหารที่สำคัญต่างๆเช่น วิตามิน เกลือแร่ หรือสารต่างๆที่มีความสำคัญ
  5. เกิด เกิดได้ เกิดได้จากการที่สารพิษที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเช่นภาวะ สารเคมีต่างๆ ยาฆ่าแมลง และสารอื่นๆที่อาจอยู่ในอากาศน้ำหรืออาหารก็เป็นได้

ซึ่งการที่สมองล้านั้นจะมีการเกิดภาวะขึ้นดังนี้ อาการนอนไม่หลับ เกิดการปวดหัว เกิดการมองไม่เห็นหรือสายตานั้นมองไม่เห็นได้เท่าที่ควร อารมณ์แปรปรวน ขี้ลืม ความจำสั้นลง เกิดการไม่สดชื่นในการทำสิ่งต่างๆ

ซึ่งการที่จะทำให้สมองไม่ล้าหรือการรักษานั้นก็คือ

  1. การที่ต้องปรับการใช้ชีวิตได้ด้านต่างๆ เช่นพฤติกรรม อาหาร การออกกำลังกาย
  2. การที่เราต้องคิดในสิ่งต่างๆให้มากขึ้นหรือการที่เรานั้นต้องทำการคายภาวะอาการเครียด
  3. กินอาหารที่ช่วยในการบำรุงของสมอง
  4. การออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ
  5. การนอนหลับหรือการพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวันซึ่งควรจะนอนหลับพักผ่อน ซึ่งการที่เรานั้นทำการ8-10 ชั่วโมง

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

การทำงานของสมองเรา

คลื่นพื้นฐานเบต้าเวฟและการทำงานของสมองเรา

สำหรับการเดินจงกรมลดเครียดชะลอวัยในช่วงที่ผ่านมาเราได้คุยกันในเรื่องการนั่งสมาธิการเดินจงกรมก็เป็นแขนงหนึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่าWalking meditationหรือจะเรียกว่าMeditation walkก็ได้ถ้าเราไปพิมพ์ในอินเตอร์เน็ตเขาอาจจะเขียนว่าWMหรือเขาก็อาจจะเขียนMWก็คือWalkingแปลว่าเดินMeditationแปลว่านั่งสมาธิ

ซึ่งในการวิจัยในเมืองนอกเริ่มพูดถึงการนั่งสมาธิและการเดินจงกรมเยอะขึ้นภาษาไทยสะกดว่า จง กรมนี่ใช่วงกลมเป็น กรม เพราฉะนั้นวันนี้เองเราจะมาคุยกันในเรื่องนี้การนั่งสมาธิไม่ใช่ว่าทุกคนจะมาถึงแล้วและนั่งแล้วเก่งเลยเหมือนกับทุกอย่างในโลกใบนี้ทุกอย่างมันต้องใช้การฝึกฝนความสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ก็ต้องมีผู้สอนผู้ฝึกหรือครูบาอาจารย์ช่วยชี้แนะอยู่ดีๆเราจะเดินมานั่งสมาธิให้สมองของเราเป็นคลื่นเดลต้าหลับลึกนั่งสมาธิชั้นสูงเลย

สำหรับตัวเราเองเราว่าเป็นไปได้ยากเราก็ต้องฝึกฝึกทุกวันวันไหนจิตดีสภาวะอารมณ์ดีร่างกายดีก็ทำได้ง่ายหน่อยบางวันงานเยอะเครียดเยอะออกกำลังกายก็น้อยการนั่งให้จิตอยุ่เป็นสมาธิยากเหลือเกินหรือบางครั้งก็นั่งไม่ไหวก้ต้องแพ้แก่ตัวเองแล้วนอนไปก่อน

เพราะฉะนั้นในการฝึกฝนคือสิ่งสำคัญแล้วก็มีวินัยด้วยในเรื่องของการปฏิบัติและการดูแลสุขภาพจิตการเดินจงกรมน่าจะเป็นการเริ่มต้นสำหรับหลายๆท่านที่ฟังมาแล้วอยากจะเดินหน้าไปสู่การนั่งสมาธิเราลองมาเริ่มต้นง่ายๆจากการเดินจงกรมก่อนหรือการสวดมนต์

ดังนั้นวันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังเรื่องเทคนิควิธีการของการเดินจงกรมเกิดประโยชน์อะไรกับร่างกายเราบ้างก่อนจะไปถึงจุดนั้นเรามาเริ่มต้นกันที่ความรู้พื้นฐานของสุขภาพสมองกันก่อนการวัดสุขภาพสมองหรือการวัดการทำงานของสมองปัจจุบันเขาจะมีเครื่องที่เรียกว่าEEGหรือเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าในสมอง

โดยในอดีตเราไม่มีเครื่องเหล่านี้การที่เราจะศึกษาเรื่องสมองยากกว่าปัจจุบันเยอะปัจจุบันเรามีเครื่องที่เข้ามาครอบศีรษะหรือจะสแกนบริเวณศีรษะแล้วแปลออกมาเป็นคลื่นต่างๆวันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังในส่วนของคลื่นพื้นฐานของการทำงานของสมอง

เพราะฉะนั้นคลื่อที่เรียกว่าเบต้าเวฟ BETAWAVEเป็นคลื่นสมองที่เกิดมาจากสมองส่วนหน้าหรือที่เรียกว่าFrontllobeหรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่าMotorcortexหรือสมองส่วนที่ควบคุมร่างกายในการยืนการนั่งการทำงานในแต่ละวันคลื่นสมองเบต้าเวฟจะส่งสัญญาณประมาณ13-32รอบหรือเฮิรตซ์ต่อวินาที

ซึ่งสมองส่วนนี้แหบะที่ทำงานในช่วงที่เราตื่นช่วงที่เราคิดช่วงที่เราตั้งใจช่วงที่เราตื่นเต้นช่วงที่เราทำงานคิดง่ายๆก็คือสมองที่เราทำงานตั้งแต่เราลืมตาตอนเช้าแล้วก็ทำงานในช่วงกลางวัน

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

วิธีแก้ง่วงยามบ่าย 

ทำอย่างไรดี ถ้างานที่อยู่ตรงหน้าเป็นงานเร่งด่วน และเวลาการส่งมอบงานให้กับลูกค้าหรือเจ้านาย ก็เร่งเข้ามาแบบกระชั้นชิด แต่ร่างกายก็ง่วงเหลือเกิน เพราะทำงานติดกันมาหลายวันแล้ว วันนี้เรามีวิธีเล็กๆน้อย มาแชร์กันสำหรับคนที่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำกันแบบนอนสต๊อบ ซึ่งรับรองว่าถ้าใครเอาไปทำตามนั้น ช่วยได้แน่นอน

วิธีแรกก็คือ การทานของหวานเพื่อเพิ่มพลัง ซึ่งอาการง่วงนั้นสาเหตุส่วนหนึ่งมันมาจากการขาดน้ำตาลในเลือดนั่นเอง เพราะมีปริมาณที่ต่ำเกินไป จึงทำให้เราเกิดอาการอ่อนเพลียและง่วงขึ้นมาดังนั้น ตัวช่วยที่ดีคือการดื่มน้ำหวานเพราะน้ำหวานจะเข้าไปช่วยเพิ่มปริมาณน้ำตาลในเลือด หรือไม่ก็หาขนมเล็กๆน้อยๆ มากินในตอนบ่าย ก็จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณหายง่วงได้จริงๆ

วิธีที่สอง คือการกำหนดลมหายใจ ฟังดูแล้วอาจจะยิ่งง่วง แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น การหายใจเข้าลึกๆ เป็นการเพิ่มออกซิเจนภายในเลือด ซึ่งจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช่วยลดความดันโลหิตและจะมีการเพิ่มการไหลเวียนในเลือดมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ร่างกายของเรานั้นมีการตื่นตัวนั่นเอง

วิธีที่สาม คือการแปรงฟัน วิธีนี้แปลกแต่ช่วยได้จริง แต่ต้องเป็นยาสีฟันที่เป็นสูตรเย็นนะ เพราะการใช้ยาสีฟันสูตรเย็นแล้วเมื่อเราแปรงเข้าไปแล้วนั้น จะทำให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นได้จากความเย็นในปากของเรา

วิธีที่สี่ หาโอกาสลุกออกไปเดินเร็วสักห้านาที เพราะยิ่งคุณนั่งอยู่กับที่ คุณก็จะยิ่งง่วง ดังนั้นออกไปยืนนอกหน้าต่าง สูดอากาศธรรมชาติ หรือจะออกไปเดินเล่นหรือลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วไปหาอย่างอื่นทำสักห้านาที วิธีนี้ก็จะช่วยให้คุณหายง่วงได้ เนื่องจากการกระตุ้นของกล้ามเนื้อจะทำให้มีพลังงานในการทำงานต่อ อารมณ์เหมือนแบตเตอรี่มือถือที่เมื่อเวลาแบตใกล้จะหมด เราจะต้องเสียบสายชารต์เพื่อชารต์ไฟนั่นเอง 

ซึ่งวิธีที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นก็จะช่วยให้คุณหายง่วง และสามารถกลับมาทำงานต่อได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามคุณก็ไม่ควรที่จะปล่อยให้อาการง่วงยามบ่ายนี้เกิดขึ้นบ่อยจนกลายเป็นนิสัย เพราะมันจะไม่ดีต่อร่างกายและสุขภาพของคุณเอง ซึ่งถ้าคุณปล่อยให้เป็นอาการแบบนี้บ่อยๆ แล้วนั้น ร่ายกายของคุณก็จะเกิดการจำและจะทำให้ติดความเคยชินจนกลายเป็นนิสัยนั่นเอง ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือ ควรจะพักผ่อนให้เพียงพอ และนอนให้เป็นเวลา เพื่อสุขภาพที่ดีต่อตัวคุณเอง และประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีนั่นเอง

 

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

ไวรัส rsv คือโรคอะไร 

          เชื่อว่าในขณะนี้หลายคนคงรู้จักเชื้อโรคที่ชื่อไวรัส rsv กันบ้างแล้วเพราะกำลังไวรัสที่ระบาดอย่างหนักมาแรงแซงทางโค้งควบคู่มากับไวรัสโคโรน่าเลยก็ว่าได้   กันบ้างแล้วเพราะกำลังไวรัสที่ระบาดอย่างหนักมาแรงแซงทางโค้งควบคู่มากับไวรัสโคโรน่าเลยก็ว่าได้   โดยปกติแล้วไวรัส rsv นั้นจะมีคนที่เป็นเป็นประจำทุกปีอยู่แล้วซึ่งส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับอากาศที่หนาวเย็น

          สำหรับเชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถเป็นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ซึ่งอาการนั้นมีความรุนแรงแตกต่างกันเนื่องจากเด็กนั้นมีภูมิคุ้มกันน้อยเมื่อเป็นไวรัส rsv แล้วอาการตึงรุนแรงมากกว่าผู้ใหญ่มากและถ้าเกิดว่าเด็กคนนั้นที่เป็นอายุน้อยกว่า 5 ปีลงมาแล้วเราก็มีความเสี่ยงอย่างมากที่อาจจะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ 

         โดยปกติแล้วเมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวผู้ปกครองของเด็กจำเป็นต้องพาบุตรหลานไปทำการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ซึ่งเป็นอาการหนึ่งของการติดเชื้อไวรัส rsv นั่นเองถึงแม้ว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไปแล้วเด็กคนนั้นอาจจะมีการติดเชื้อไวรัส rsv ได้แต่อาการก็จะทุเลาลงมากกว่าคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้นเอง   สำหรับอาการของโรคอาเอสวีนั้นจะเป็นอาการของโรคที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจเป็นหลักนั่นเองดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไวรัส rsv ก็คือจะต้องมีการ 

            ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้คนที่มีอาการของการเป็นไข้หวัด  และถ้าเด็กคนไหนมีอาการป่วยของไข้หวัดหรือติดเชื้อไวรัส rsv ก็ควรจะพักผ่อนอยู่ที่บ้านไม่ควรปล่อยให้ไปโรงเรียนเพราะการที่เด็กที่มีเชื้อไวรัส rsv ไปโรงเรียนจะเป็นการแพร่กระจายเชื้อไวรัสไปสู่เพื่อนๆในห้องเรียนนั้นเองที่สำคัญควรจะมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อสำหรับห้องเรียนหรือห้องนอนของเด็กที่มีการติดเชื้อไวรัส rsv  และแน่นอนว่าการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือรับประทานอาหารที่สะอาดและปรุงสุกใหม่ๆรวมถึงต้องหมั่นล้างมือบ่อยๆที่สำคัญในช่วงนี้ยังคงต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเพราะนอกจากที่จะป้องกันไวรัส rsv แล้วป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้อีกด้วย

          สำหรับผู้ปกครองที่มีรูปเป็นเด็กทารกและมักจะพาลูกออกไปข้างนอกอยู่เป็นประจำอาจจะไปเจอผู้คนที่เห็นความน่ารักของเด็กและขอหอมแก้มหรือจับมือกับแกล้มอันนี้ควรหลีกเลี่ยงเป็นงานเร่งเพราะว่าเชื้อโรคอาจจะมาตากผู้คนข้างนอกบ้านที่เราพาลูกออกไปเดินเล่นก็ได้ดังนั้นในช่วงที่มีการระบาดของไวรัส rsv นี้จึงไม่ควรนำบุตรหลานออกไปเดินตามสถานที่สาธารณะเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ที่ติดเชื้อไวรัส rsv นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    หวยออนไลน์