โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา (Ebola virus disease – EVD) คืออะไร

โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา (Ebola Virus Disease – EVD) เป็นโรคติดเชื้อที่มีความรุนแรงและมีความเสี่ยงต่อชีวิต มันเกิดจากไวรัสเอบอลาที่สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสกับของเหลวร่างกายของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ โรคนี้มักพบในพื้นที่ที่มีการระบาดของไวรัสอีโบลา

โดยพื้นที่ที่รายงานการระบาดของโรคนี้มักจะอยู่ในแอฟริกากลางและตะวันออก แต่ก็มีการรายงานของโรคในพื้นที่อื่นๆ บ้างด้วย ตัวอย่างเช่น ในประเทศลิเบียเร็วนี้ก็มีการรายงานของโรคนี้เกิดขึ้น

อาการของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลามักเริ่มต้นด้วยอาการเหมือนไข้หวัดธรรมดา เช่น ไข้, ปวดกล้ามเนื้อ, อ่อนเพลีย และครั่นเนื้อครั่นใจ

อาการเหล่านี้อาจพัฒนาเป็นอาการรุนแรงขึ้นได้ เช่น อาการคลื่นไส้ อาการท้องเสีย, ไข้เจ็บคอ, ปัญหาทางระบบหายใจ และมีเลือดรุนแรงออก ในบางกรณีที่รุนแรงอาจทำให้เกิดอาการอวัยวะเสียหายและตายได้

การป้องกันโรคนี้รวมถึงการป้องกันการสัมผัสกับสารเหลวร่างกายของผู้ป่วยที่เป็นไข้ การล้างมืออย่างถี่ถ้วน, การใช้ชุดป้องกันทางการแพทย์อย่างถูกต้อง เรียกว่า Personal Protective Equipment (PPE) และการป้องกันการสัมผัสกับสัตว์ที่อาจเป็นแหล่งเชื้อโรค

นอกจากนี้ การวัคซีนกำลังถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันโรคนี้โดยปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ทั่วไปอยู่ แต่มีการทดลองวัคซีนในระดับคลินิกที่กำลังดำเนินการอยู่

 ในกรณีที่มีการระบาดของโรคนี้ การรักษามักจะเน้นไปที่การรักษาอาการที่เกิดขึ้น และการจัดการกับอาการรุนแรง เช่น การให้น้ำ, การรักษาและการจัดการกับอาการของโรคแทน การรักษาโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลายังมีความสำคัญในการควบคุมการระบาดโดยการติดตามและฆ่าเชื้อในผู้ที่เป็นโรค

การระดมทรัพยากรทางการแพทย์และการศึกษาสาธารณสุขเช่นการแจ้งเตือนและการสอนแนะในชุมชนในพื้นที่ที่มีการระบาด นอกจากนี้ การดูแลและรักษาเสร็จสิ้นอาการของผู้ป่วยที่เริ่มต้นในช่วงเริ่มแรกอาจช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดในขั้นตอนต่อไปได้ด้วย

การป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลานั้นมีหลายวิธีที่สามารถทำได้ ดังนี้

1.การล้างมือ: การล้างมืออย่างถูกต้องและสม่ำเสมอโดยใช้สบู่และน้ำที่ได้รับการตรวจสอบว่ามีคุณภาพดี หรือใช้เจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม

2.การใส่ชุดป้องกันทางการแพทย์ (Personal Protective Equipment – PPE): สำหรับบุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วยที่เป็นไข้ การใส่ชุดป้องกันทางการแพทย์เช่น เสื้อผ้าป้องกันทางเหนือ, หน้ากากป้องกัน, แว่นตาป้องกัน, ถุงมือ, และรองเท้าป้องกัน เพื่อป้องกันการสัมผัสกับสารเสียจากผู้ป่วย

3.การหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเหลวร่างกาย: การหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเลือดหรือสารเหลวร่างกายของผู้ป่วยที่เป็นไข้ เช่น เลือด, น้ำหาย, น้ำลาย, น้ำมูก เป็นต้น

4.การป้องกันการสัมผัสกับสัตว์: ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ที่อาจเป็นแหล่งเชื้อโรค เช่น ลิง, มนุษย์ป่า, หรือสัตว์ป่าที่อาจเป็นพาหะของไวรัส

5.การป้องกันการระบาดในชุมชน: การใช้มาตรการควบคุมการระบาด เช่น การตรวจสอบความเข้มข้นของการติดตามการติดต่อ การกำกับดูแลและควบคุมการขนส่ง การจัดเตรียมสถานที่รักษาพยาบาล และการให้ข้อมูลแนะนำในการป้องกัน นอกจากนี้ การจัดการกับสายพันธุ์อื่นๆที่สามารถสร้างสภาวะเสี่ยงที่มีการระบาดโรคอย่างรวดเร็ว เช่น การจัดการกับการชุมนุมมวลชน

6.การฉีดวัคซีน: การวัคซีนกำลังถูกพัฒนาเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา ซึ่งอาจจะเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมการระบาดในอนาคต

 

ได้รับการสนับสนุนโดย          เครื่องช่วยฟังต้องใส่กี่ข้าง